การตลาดแบบ วัวสีม่วง (Purple Cow)
----
1. ถ้าเราขับรถไปต่างจังหวัด แล้วเราเห็นทุ่งหญ้าที่สวยมาก แล้ว เผอิญเห็นฝูงวัว เราก็มักจะเปิดหน้าต่าง แล้วก็ชี้ให้ดูวัว กันทั้งครอบครัว
2. แต่ ถ้า 20 นาทีผ่านไป เราก็ยังเห็น ทุ่งหญ้า เห็น วัว เห็นทุ่งหญ้า เห็นวัว ... อยู่เรื่อยๆ
3. จากที่เราตื่นเต้น อยู่ตอนแรกๆ ก็จะกลายเป็น "น่าเบื่อ"
4. น่าเบื่อ ไม่มอง ไม่สนใจ กลับไปในรถ ฟังเพลง เล่นเกมส์ต่อเหมือนเดิม
5. นอกเสียจาก เราจะเห็น วัวสีม่วง เราถึงจะ ว้าว และสนใจมันอีกครั้ง
6. เช่นกัน สินค้าอะไรที่มันออกมาใหม่ๆ ในท้องตลาด เราก็มักจะชอบ จะสนใจ จะว้าว แล้วก็รีบบอกคนอื่นให้มาดู
7. แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเราเห็นมันนานๆ เราก็จะเริ่มเบื่อ
8. ที่สำคัญ คนมากมาย พอเห็น มีคนดูวัวเยอะๆ ก็ไปเอาวัวมาเลี้ยงบ้าง
9. แต่หารู้ไม่ว่า คนกำลังเริ่มเบื่อมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว แต่กลับมีคนเอาวัวมาเลี้ยงขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
10. นี่คือเหตุผลที่ คนที่ Copy คนอื่น มักจะไม่โต เหมือนคนที่ทำคนแรกๆ เพราะว่า คนเริ่มเบื่อวัวแล้ว
11. เจ้าที่เอาวัวมาเลี้ยงแรกๆ เค้าก็ไป สร้างวัวสีม่วงตัวใหม่แล้ว แต่คนตาม เพิ่งไปเอาวัวที่เค้ากำลังเบื่อมา...
12. ที่สำคัญยุคปัจจุบัน สื่อ Social ทำให้ มีโอกาสที่คนจะเห็นวัวได้เร็วมาก และ ก็เบื่อได้เร็วมากเช่นกัน
13. Peter Ducker บอกธุรกิจมีแก่นอยู่ 2 ข้อ คือ 1 innovation (นวัตกรรม) และ 2) Marketing (การตลาด)
14. Innovation หรือ นวัตกรรม คือ การสร้าง วัวสีม่วงใหม่ๆ - ส่วนการตลาด คือ วิธีทำให้ คนเห็น คนรู้จัก วัวสีม่วง
15. และ Tony Robbins บอกว่า innovation ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ถึงขั้นไปดวงจันทร์
16. วิธีคิด innovation คือ เราจะทำยังไง ที่เราจะ Serve ลูกค้าได้ แบบที่ไม่เคยมีใคร Serve ได้มาก่อน
17. หรือหากลุ่มที่ Underserve - หรือกลุ่มที่ยังไม่ได้ถูก Serve ในเรื่องนั้นๆ อยู่ ซึ่งถ้าเรามองจริงๆ มันมามากมาย ทั่วท้องตลาด
18. อยู่ที่ว่าเรา สนใจ ตั้งใจ มองหาไหม หรือ เราจะแค่เอาวัวเหมือนๆ กันมาเลี้ยง...
นี่คือ การตลาดแบบ "วัวสีม่วง"
Concept by Seth Godin
ลุย 10x
Un+Chirdpong (อั๋น เชิดพงษ์)
Search